• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง นับว่าเป็นต้นกำลังที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของโรงงานอุตสาหกรรมในปัจจุบัน $$

Started by www.SeoNo1.co.th, Sep 15, 2025, 08:53 PM

Previous topic - Next topic

www.SeoNo1.co.th

 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงถือเป็นต้นกำลังที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของโรงงานอุตสาหกรรมในปัจจุบัน



ข้อดีหลักๆของมอเตอร์ประเภทนี้เป็นสามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ระดับค่อนข้างต่ำสุดไปจนสูงสุดโดยมักใช้กับระบบอุตสาหกรรม ดังเช่น โรงงานทอผ้า, โรงงานผลาญโลหะ, โรงงานเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ดังนี้ก่อนที่จะไปกระทำใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดนี้ พวกเราจึงควรรู้จักกับเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆรวมถึงลักษณะการทำงานให้ถูกหลักด้วยเพื่อจะได้เลือกใช้งานได้อย่างแม่นยำ

องค์ประกอบของ มอเตอร์ไฟฟ้า กระแสตรง

1. เฟรมหรือโยค (Frame or Yoke) : เป็นโครงภายนอกเปรียบได้กับ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ทางเท้าของแม่เหล็กจากขั้วเหนือไปขั้วใต้ ช่วยยึดส่วนประกอบอื่นๆให้แข็งแรง

2. ขั้วแม่เหล็ก : จะมี 2 ส่วน คือแกนขั้วแม่เหล็กกับขดลวดสนามแม่เหล็ก

3. ตัวหมุน (Rotor) : จะทำให้กำเนิดกำลัง ลักษณะมีแกนวางอยู่ตรงลูกปืน ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลักๆเป็น แกนเพลา, แกนเหล็กอเมเจอร์, คอมมิวเตเตอร์ แล้วก็ขดลวดอเมเจอร์

4. แปรงถ่าน : ทำจากคาร์บอนทรงสี่เหลียมผืนผ้า ต้องสัมผัสกับซีคอมไม่วเตเตอร์ตลอดระยะเวลาเพื่อรับไฟฟ้าพร้อมส่งระหว่างขดลวดอเมเจอร์กับวงจรไฟฟ้าด้านนอก

หลักการทำงานเบื้องต้นของ มอเตอร์กระแสไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสตรง

พอแรงดันไฟฟ้าเข้าไปยังมอเตอร์ ส่วนหนึ่งจะเข้าแปรงถ่านผ่านคอมไม่วเตเตอร์ต่อเข้าไปยังขดลวดอเมเจอร์เพื่อสร้างสนามไฟฟ้าขึ้นมา ระหว่างที่ไฟฟ้าอีกส่วนจะไหลไปยังขดลวดสนามแม่เหล็ก มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง เกิดเป็นขั้วเหนือ-ขั้วใต้ ทำให้มีการเกิดสนามไฟฟ้า 2 สนาม โดยคุณลักษณะของแม่เหล็กทิศทางตรงกันข้ามจะลบล้างกัน ส่วนแนวทางเดียวกันเสริมแรงกันเกิดเป็นแรงบิดในตัวอเมเจอร์หมุนได้เรียกว่าตัวหมุนหรือ Rotor ด้วยแม่เหล็กทั้งคู่ที่เกิดปฏิกิริยาต่อกัน ทำให้การหมุนดังที่ได้กล่าวมาแล้วเกิดขึ้น เพื่อทำให้มอเตอร์ไฟฟ้า กระแสตรง สามารถใช้งานได้นั่นเอง

มอเตอร์ไฟฟ้า กระแสสลับ 3 เฟส

เป็นมอเตอร์ยอดนิยมมากมายในหมู่โรงงานอุตสาหกรรม ใช้กับระบบไฟกระแสสลับ การใช้งานเบื้องต้นเป็นเปลี่ยนกำลังไฟฟ้าให้เปลี่ยนเป็นพลังงานกล ส่วนที่ปฏิบัติภารกิจแปลงกำลังไฟฟ้าคือขดลวดในสเตเตอร์ เมื่อได้รับกำลังไฟฟ้าก็จะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้น แล้วก็จะไปทำให้มีการเกิดการเหนี่ยวนำของไฟฟ้าขึ้นในขดลวดของโรเตอร์ หรือ เรียกว่าตัวหมุน ซึ่งคือส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ให้พลังงานกลนั่นเอง ก็เลยทำให้มีการเรียกมอเตอร์ไฟกระแสสลับว่ามอเตอร์เหนี่ยวนำ

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 จำพวกคือ

1. มอเตอร์ไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสสลับแบบอินดักชั่น หรือ เหนี่ยวนำ– จะมีความเร็วพร้อมรอบคงเดิม เหตุเพราะขึ้นกับความถี่ของแหล่งกำเนิดกระแสไฟฟ้า โครงสร้างไม่ค่อยซับซ้อน ราคาไม่แพง บำรุงรักษาง่ายเนื่องจากว่าไม่มีคอมไม่วเตเตอร์กับแปรงถ่านเสมือนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องควบคุมความเร็วอินเวอร์เตอร์ก็จะสามารถคุมความเร็วได้ตั้งแต่0 ถึง ความเร็วสูงสุดของมอเตอร์
ด้านในประกอบไปด้วยโรเตอร์, ขดลวดสนามไฟฟ้า,  มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง โครงมอเตอร์, ขั้วต่อสาย, ฝาครอบหัว, ฝาครอบด้านหลัง สามารถแบ่งออกเป็น 2 จำพวกหลักๆอย่างเช่น อินดิกชั่นมอเตอร์แบบทรงกระรอกกับอินดิกชั่นมอเตอร์แบบขดลวด การใช้แรงงานขึ้นกับความเหมาะสมของเครื่องจักร

2. มอเตอร์กระแสไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสสลับแบบสิงวัวรนัส– จะเป็นมอเตอร์ขนาดใหญ่ขนาดพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ 150 KW ไปจนกระทั่ง 15 MW ระดับความเร็วตั้งแต่ 150 – 1,800 RPM มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วนเป็น

- สเตเตอร์ (Stator) จะเป็นเหมือนกับแบบอินดักชั่น มีร่องพันขดลวด 3 ชุด เฟสละ 1 ชุด พอเพียงจ่ายกระแสสลับ 3 เฟสให้สเตเตอร์จะกำเนิดสนามแม่เหล็กหมุนขึ้นมา
- โรเตอร์ (Rotor) ลักษณะเป็นขั้วแม่เหล็กยื่น ขดลวดพันข้างๆขั้วแม่เหล็กที่ยื่นออกมาโดยจะพันยื่นต่อกับแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้ากระแสไฟตรงข้างนอกไม่ก็สร้างขั้วแม่เหล็กตรงโรเจอร์ เมื่อมีการจ่ายกระแสไฟมายังสเตเตอร์จะกำเนิดเป็นสนามแม่เหล็กหมุนความเร็วพอๆกับความเร็วของสนามไฟฟ้า  มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ตรงสเตเตอร์นั่นเอง

ติดต่อและอ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://fms.co.th/ชวนทำความรู้จักกับมอเต/