สาระน่ารู้ ! สิทธิที่พนักงานจะได้รับ ในประกันสังคมมาตรา 33

[Ailie662]

ประกันสังคมมาตรา 33 คือ หลักประกันชีวิตสำหรับพนักงานเอกชนทั่วไป โดยลูกจ้างจะมีหน้าที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ และความคุ้มครองในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การรักษาพยาบาล เงินชดเชยระหว่างว่างงาน การรักษาพยาบาล หรือเงินบำนาญชราภาพ 


ซึ่งพนักงานต้องจ่ายเงินสมทบ 5% ของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน ทำให้หลายคนสงสัยว่า เงินที่จ่ายไปแต่ละเดือน พนักงานจะได้รับสิทธิอะไรบ้าง ในบทความนี้ ได้รวบรวมสิทธิที่พนักงานจะได้รับ มาไว้แล้ว จะมีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมกันได้เลย
[ol]

• การรักษาพยาบาล

[/ol]
การเข้ารับการรักษาพยาบาล ภายใต้สิทธิประกันสังคม ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการในโรงพยาบาล ที่อยู่ในเครือข่ายของประกันสังคมได้ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันที่เข้ารับการรักษา ทั้งนี้ ความคุ้มครองจากสิทธิการรักษาพยาบาลครอบคลุมการรักษา 4 กรณี ดังนี้


[ul]

• เจ็บป่วยปกติ: ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษา ตรวจวินิจฉัย และรับยาตามอาการที่โรงพยาบาลในเครือข่าย
• เจ็บป่วยฉุกเฉิน: หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใกล้เคียงได้ทันที โดยจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ตามเกณฑ์ที่กำหนด
• ผู้ป่วยวิกฤต: ในกรณีที่อาการรุนแรงจนเป็นภาวะวิกฤต ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิในการเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตามมาตรฐานของประกันสังคม
• การทันตกรรม: ได้รับค่ารักษาทันตกรรมขั้นพื้นฐาน เช่น อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน และการรักษาอื่น ๆ โดยมีวงเงินสิทธิประโยชน์ที่สามารถเบิกได้ต่อปี เช่น อุดฟัน หรือถอนฟันวงเงิน 900/ปี

[/ul]


[ol]

• ว่างงาน

[/ol]
กรณีว่างงาน ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เงื่อนไขการได้รับสิทธิ จะต้องจ่ายเงินสมทบไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนว่างงาน หรือถูกเลิกจ้าง โดยสามารถไปขึ้นทะเบียนว่างงานผ่านเว็บไซต์ หรือทะเบียนที่สำนักงาน ซึ่งจะได้รับเงินทดแทน 3 รูปแบบ ได้แก่


[ul]

• ลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง: ได้รับเงินทดแทนอัตรา 30% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน
• ถูกเลิกจ้าง: ได้รับเงินทดแทนอัตรา 30% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน
• ว่างงานสุดวิสัย: ได้รับเงินทดแทนอัตรา 50% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน

[/ul]


[ol]

• ชราภาพ

[/ol]
สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ตามประกันสังคมมาตรา 33 เป็นการสร้างหลักประกันให้ผู้ประกันตนเมื่อถึงวัยเกษียณ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ เงินบำเหน็จ และเงินบำนาญ 
[ol]

• คลอดบุตร

[/ol]
ตามกฎหมายแรงงาน ลูกจ้างหญิงมีสิทธิ ลาคลอดบุตรได้ 120 วัน โดยได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง 60 วัน นอกจากนี้ หากเป็นสิทธิประกันสังคมมาตรา 33 ผู้ประกันตนสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล และค่าคลอดได้ โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ ต้องจ่ายเงินสมทบ ไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนคลอดบุตร
[ol]

• สงเคราะห์บุตร

[/ol]
ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบ ไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายใน 36 เดือนก่อนขอรับเงินสงเคราะห์บุตร จะได้รับเงินสงเคราะห์แบบเหมาจ่าย เดือนละ 800 บาท ต่อบุตร 1 คน สูงสุด ไม่เกิน 3 คน
[ol]

• ทุพพลภาพ

[/ol]
ผู้ประกันตนที่ประสบภาวะทุพพลภาพ หรือพิการถาวรมีสิทธิได้รับเงินทดแทนรายเดือน และค่าช่วยเหลือ ตามอัตราที่กำหนดโดยสำนักงานประกันสังคม
[ol]

• เสียชีวิต

[/ol]
หากผู้ประกันตนมาตรา 33 เสียชีวิต จะมีเงื่อนไขสำคัญ คือ ต้องมีการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนมาแล้วอย่างน้อย 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนถึงแก่ชีวิต จึงจะมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าทำศพ 50,000 บาท และได้รับเงินสงเคราะห์เพิ่มเติม 
[ol]

• ภาษี

[/ol]
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มีสิทธิในการนำเงินสมทบประกันสังคมที่จ่ายไปในแต่ละปี มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยสามารถลดหย่อนได้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี

ขอบคุณข้อมูลจาก https://cloud-ta.com/